วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2556

สถานที่เที่ยวสวยๆ ในจังหวัดกระบี่


                                                                        เกาะไก่
                                                              สระมรกต ในอำเภอคลองท่อม
 สระมรกต เป็นสระน้ำพุร้อนกว้างประมาณ 20 เมตร ยาว 25 เมตร และมีอุณหภูมิ 30-50องศาเซลเซียส สาเหตุที่น้ำใสก็เพราะว่า น้ำมาจากใต้ดิน ผ่านชั้นหินปูนที่มีแคลเซียมคาร์โบเนตสูง และมีคุณสมบัติเป็นด่าง ทำให้สารแขวนลอยในน้ำตกตะกอนลง
            สระมรกต สระน้ำสวยใสกลางใจป่า ที่กำเนิดมาจากธารน้ำอุ่น ใน ผืนป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ –บางคราม ซึ่งในการเดินทางไปชมนั้นจะต้องเดินเท้าจากทางเข้าไปประมาณ 800เมตร สองข้างทางนั้นเป็นป่าร่มครึ้มเย็นสบาย เดินไปเรื่อยๆ ก็ถึงสะพานไม้ที่จะนำทางไปสู่สระน้ำสีเขียวราวมรกต
และที่เห็นสระน้ำใสๆ ดูสะอาดอย่างนี้ก็ไม่เหมาะกับการดื่มกินเพราะอาจทำให้เป็นนิ่วได้ ที่สำคัญใครที่จะลงเล่นน้ำไม่ควรที่จะใช้ แชมพู สบู่ หรือสารซักฟอกใดๆ เพราะจะเป็นตัวเร่งให้สาหร่ายในสระเกิดขึ้นมากจนผิดปกติ และทำให้น้ำเสียได้ในที่สุด

สระมรกต Unseen in Thailand
      สระมรกต สระน้ำสวยใสกลางใจป่า กำเนิดมาจากธารน้ำอุ่นในผืนป่าที่ราบต่ำภาคใต้ แหล่งสุดท้ายที่พบ นกแต้วแร้วท้องดำ ซึ่งเคยสูญพันธ์ไปนานเกือบ 100 ปี ใครจะรู้บ้างไหมว่า ใจกลางป่าผืนนี้มีทั้งสระน้ำสวยใส และนกหายากอยู่รวมกัน
     
ป่าเขานอจู้จี้
      ป่าดินที่ราบต่ำผืนสุดท้ายของเมืองไทย ตั้งอยู่ที่อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ มีสภาพเป็นป่าอุดมสมบูรณ์ แบ่งเป็นป่าดงดิบชื้น และบางส่วนที่เป็นป่าพรุที่มี น้ำท่วมขังทั้งปี สามารถท่องเที่ยวได้สะดวกด้วยการเดินตามเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ดูพรรณไม้ที่น่าสนใจ เช่น ต้นเตียว ต้นชิง ฯลฯ นอกจากนั้น ที่นี่ยังเป็นแหล่งดูนก ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย โดยมีนกกว่า 300 ชนิด มีนกที่หายากและสูญพันธุ์ จากโลกนี้ไปแล้วเกือบ 100 ปี ซึ่งกลับมาค้นพบที่นี่คือ นกแต้วแร้วท้องดำ และเป็นแหล่งที่มีสระน้ำสวยใสหลายแห่ง อันเกิดมาจากธารน้ำอุ่น ที่สำคัญคือ สระมรกต ที่มีน้ำใสเป็นสีเขียวอมฟ้า เปลี่ยนสีไปได้ตามวันเวลา และสภาพแสง
   
  วันเวลาที่แนะนำ
      สระมรกต สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปีแต่สภาพที่ดีซึ่งจะเห็นสระเป็นสีเขียวมรกตสดใส มักจะเป็นช่วงเวลาเช้า และเย็น โดยเฉพาะในวันฤดูร้อนที่ท้องฟ้าสดใสปราศจากเมฆฝน
      การเดินทาง
      จากจังหวัดกระบี่ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 สู่อำเภอคลองท่อม แยกซ้ายมือทางหลวง หมายเลข4038 มุ่งหน้าอำเภอลำทับ ระหว่างทางมีทางแยกขวามือเป็นทางย่อยแยก เข้าสู่น้ำตกร้อน และสระมรกตที่มีป้ายบอกทางชัดเจน
                                         
   
เขาขนาบน้ำที่อยู่ในอำเภอเมือง
   เป็นเขาสองลูกสูงประมาณ 100 เมตร ขนาบแม่น้ำกระบี่ด้านหน้าตัวเมือง ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมือง กระบี่ สามารถไปเที่ยวชมได้โดยเช่าเรือหางยาวที่ท่าเรือเจ้าฟ้า ใช้เวลาเดินทางเพียง 15 นาทีเท่านั้น จากนั้นต้องขึ้นบันไดไปชมถ้ำ ภายในมีหินงอกหินย้อย และเคยพบโครงกระดูกมนุษย์จำนวนมากมาย อยู่ในบริเวณ นี้สันนิษฐานว่าอาจจะเป็นโครงกระดูกของกลุ่มคนที่อพยพมาตั้งหลักแหล่งแต่ล้มตายลง เนื่องจากเกิดอุทกภัยอย่างฉับพลัน
หาดนพรัตน์ธารา
สุสานหอย 75 ล้านปี
             สุสานหอยเจ็ดสิบห้าล้านปี เป็นสถานที่สำคัญอีกประการหนึ่งของเมืองกระบี่ ที่น่าศึกษาในเชิงโบราณคดีและธรณีวิทยา กล่าวกันว่าสภาพการณ์เช่นนี้มีเพียงสามแห่งเท่านั้นในโลก คือมีที่สหรัฐอเมริกา ที่ญี่ปุ่น และประเทศไทย ที่กระบี่ ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวแวะไปเยี่ยมเยือนตลอดเวลา
            สุสานหอยเจ็ดสิบห้าล้านปี ตั้งอยู่ที่บ้านแหลมโพธิ์ ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมือง มีประวัติศาสตร์ทาง ธรณีวิทยาว่า เป็นซากดึกดำบรรพ์ (ฟอสซิล) ส่วนใหญ่เป็นหอยขมตัวยาวป้อมประมาณ ๒ ซม. ถูกทับถมกันโดยมีน้ำ ประสานธาตุปูนจับตัวให้กลายเป็นหินแข็ง หนาประมาณ ๔๐ ซม. ชั้นถัดลงไปเป็นหินลิกไนท์ หนาประมาณ ๑๐ ซม. ใต้ลงไปเป็นหินดาน จากลักษณะดังกล่าวสามารถคำนวณได้ว่า เมื่อประมาณ ๗๕ ล้านปีมาแล้ว บริเวณนี้เคยเป็น หนองน้ำจืดมาก่อน ซากต้นไม้กันมากมายจนกลายเป็นถ่านหิน ระยะต่อมามีหอยหลายชนิดเข้ามาอาศัยและแพร่พันธุ์ออก นับล้านๆตัว ภายหลังเกิดการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยา หนองน้ำตกอยู่ภายให้ติดกันเป็นพืด ต่อมาไม่นานนี้เกิดการ เปลี่ยนแปลงอีกครั้งหนึ่งให้หินโผล่พ้นผิวน้ำขึ้นมาบางส่วนดังที่เห็นอยู่ทุกวันนี้
             สุสานหอยได้ปรากฎในตำนานชาวบ้านเรื่องอ่าวนางด้วยว่า สมัยหนึ่งนานมาแล้วมีหญิงสาวสวยอยู่ที่ริมทะเลไม่ไกลจากสุสานหอยมากนัก อาศัยที่นางเป็นคนสวยจึงมีชายหนุ่มมาหมายปองเป็นจำนวนมาก แต่นางก็ไม่รับรัก ใคร อยู่มาวันหนึ่งมีชายหนุ่มจากเกาะหัวขวานมาหาและขอความรัก นางไม่รับรัก แต่ชายหนุ่มดังกล่าวได้ใช้กำลังฉุด คร่าจะเอานางไปให้ได้ ขณะนั้นมีชายหนุ่มจากเกาะพญานาคมาช่วยไว้ ในที่สุดนางก็ยอมตกลงจะแต่งงานกับชายหนุ่ม เกาะนาค เมื่อถึงวันนัดแต่งงานหนุ่มน้อยเกาะนาคก็ยกขันหมากมา ทำให้ชายหนุ่มอื่นๆ ที่หมายปองอยู่รู้เรื่องก็ไม่ยอม ยกขบวนมาแย่งชิงนาง เกิดรบกันวุ่นวายไปหมด พระฤาษีที่อยู่ถ้ำได้ออกมาห้ามปรามไม่มีใครฟัง จึงถูกสาปเป็นหินไป ทั้งหมด เช่นเกิดเป็นถ้ำนาง เกาะหัวขวาน เกาะปอดะ เขาหงอนนาค เขาหางนาค และข้าวเหนียวกวนที่นำมาในงาน ครั้งนั้นได้กลายเป็นสุสานหอยนั่นเองจากนิทานดังกล่าวล้วนบอกร่องรอยธรรมชาติที่เกิดขึ้นบริเวณนี้ ซึ่งน่าจะเกิด แผ่นดินไหว หรือการเปลี่นเปลงทางธรณีวิทยาครั้งสำคัญก็ได้ เพราะไม่ไกลจากอ่าวนางมากนักเป็นรอยเลื่อนของ หินใหม่จากทะเลอันดามันพาดไปตามแนวคลองมะรุ่ยในจังหวัดพังงา ไปออกสุราษฎร์ธานีสุสานหอยอาจโผล่พ้นน้ำขึ้น มาในครั้งนั้นก็ได้

อ่าวพระนาง
ภาพทั้งหมดที่เก็บมาฝากนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของจังหวัด กระบี่ ความจริงยังขาดสถานที่สำคัญอีกหลายที่ด้วยกันอย่างเช่น เกาะพีพี เกาะลันตส เป็นต้น

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

 

Blogger news

Blogroll

About