วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ธรรมะดีๆที่เอามาฝากกัน 2

                                                                     
                                                                          การอภัยทาน 2

การให้อภัยคือการแสดงกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด การอภัยทานเวลาจะให้ไม่ต้องไปขอใคร ไม่เหมือนใครที่มาขอเงินเรา เราต้องควักกระเป๋าให้ แต่อภัยทานไม่ต้องไปหามาจากไหนแลพไม่รู้สึกว่าเป็นการสูญเสีย ขอให้เราภูมิใจเมื่อมีใครมาขอโทษ เมื่อมีใครให้อภัยเราหรือเมื่อสำนึกได้ว่า เราได้ทำอะไรผิดพลาดไป ก็ขอโทษกัน การขอโทษหรือการให้อภัยไม่ใช่การเสียหน้าหรือเสียรู้ ไม่ใช่การได้เปรียบหรือเสียเปรียบแต่อย่างใด หากแต่เป็นการชำระใจให้สะอาด ใครจะคิดอย่างไรไม่ใช่ประเด็น แต่สำหรับเราผู้แสดงออกว่าเราให้อภัย ในเรื่องนี้ต่อบุคคลผู้นี้แล้ว นั่นเป็นสิ่งสำคัญเพราะสิ่งนั้นจะถูกบรรจุลงในเครื่องคอมพิวเตอร์คือจิตใจของเราทันที
การผูกอาฆาต ความพยาบาท ความอิจฉา โกรธเกลียด ความคิดแก้แค้น ทิฐิมานะ เป็นต้น เป็นเสมือยเชื้อไวรัส อภัยทานเป็นเหมือนแอนตี้ไวรัส ส่วนจิตใจของเรานั้นเป็นเหมือนเครื่องคอมพิเตอร์ ในชีวิตที่เหลืออยู่นี้ อาจจะดูเหมือนยาว แต่จะมีใครบอกได้ไหมว่าเราจะมีชิวิตอยู่ปลอดภัยถึงวันไหน เราต้องการความทรงจำที่เลวร้าย หรือต้องการความทรงจำที่ดีในชีวิต เราต้องการนั่งนอนอย่างมีความสุข มีชีวิตอยู่ด้วยความอิ่มเอิบ หรือต้องการมีชีวิตอยู่ด้วยการถอนหายใจ ด้วยความทุกข์และความกังวลใจ สิ่งเหล่านี้กำหนดได้ที่ตัวเราเอง กำหนดวิธีคิดให้ถูกต้อง ความคิดเป็นสิ่งที่ทรงพลังงมาก สุขหรือทุกข์ของมนุษย์นั้นจะอยู่ที่วิธีคิด คิดเป็นก็พ้นทุกข์ คิดไม่เป็นแม้แต่เรื่องที่มิใช่เรื่องก็เป็นทุกข์ได้ ขอให้เรามาคิดดูว่า ในชิวิตของเราคนหนึ่งอย่างดี ก็อยู่ได้ 90 ปี เกินนี้ไปถือว่าเป็นกำไรของชีวิต ทำไมเราต้องมานั่งครุ่นคิดเรื่องไร้สาระ ทำไมเราต้องเสียเวลามาทำเรื่องที่ทำให้เกิดทุกข์ การยอมกันเสียบ้างก็เป็นความสุขได้ไม่ยาก บางครั้งการยอมแพ้อาจจะเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ข้ามภพชาติ การยกโทษอาจดูเหมือนเรายอม เราไม่ติดใจ ไม่เอาเรื่อง แล้วเขาจะได้กำเริบ ส่วยเราเสียเปรียบ ความจริงไม่ใช่ เรากำลังบำเพ็ญทานบารมีขั้นสูง คือ อภัยทาน อันเป็นทานบารมี ที่สูงส่ง ของให้สังเกตการณ์เปลี่ยนทางกายเวลาเราโกรธ เกลียด พยาบาทใคร สีหน้าของเราจะเปลี่ยน เลือดในร่างกายจะผิดระบบ เช่น เวลาโกรธจัด จิตที่ถูกครอบงำโดยอารมณ์โกรธ ก็จะมีลักษณะเช่นเดียวกัน คือหนักใจ ทำอะไรก็กังวลเป็นทุกข์ แต่พอยกโทษให้ก็มีความเบาสบายใจ

สัพเพ สัตตา                        สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง
อเวรา โหนตุ                       จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรต่อกันและกันเลย
อัพยาปัชฌา โหนตุ             จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้พยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
อนีฆา โหนตุ                       จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย

สุขี อัตตานัง ปริหรันตุ        จงเป็นผู้มีสุข รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัย ทั้งสิ้น เทอญ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

 

Blogger news

Blogroll

About