วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ธรรมะดีที่เอามาฝากกันครับ


อภัยทาน
                                                     การยุติผลกรรมข้ามภพข้ามชาติ
ทุกชีวิตล้วนมีภัย ภัยของชีวิตล้วนเกิดขึ้นได้ทุกเสี้ยววินาที ภัยที่เกิดจากภายนอกไม่ร้ายแรงเท่ากับภัยภายใน ภัยที่ผู้อื่นสร้างขึ้นกระทบเราน้อยกว่าภัยที่เราสร้างขึ้นเอง บางคนทำผิดแล้วกลับมานั่งเสียใจในภายหลังก็บ่อย ภัยทั้งหลายล้วนเป็นยาพิษ ที่ปลิดชีวิตจิตใจเราได้ทั้งสิ้น มนุษย์อื่นทำลายเรา ก็ทำได้เพียงขณะหนึ่ง แต่จิตใจที่ตั้งไว้ผิดจะทำลายเราข้ามภพ ข้ามชาติ ด้วยเหตุนี้ท่านจึงสอนเรื่องอภัยทาน คือการยกโทษ แสดงอโหสิกรรมต่อกัน
ไทยเรามีประเพณีอย่างหนึ่ง คือ เมื่อจุดธูปขอขมาศพ ก็จะอโหสิกรรมต่อกัน คืออย่าได้มีเวรต่อกันในภพหน้าไห้ทุกอย่างจบลงในชาตินี้ แม้ศัตรูคู่อาฆาตก็ต้องอโหสิกรรมต่อกัน บางครั้งพิธีสำคัญในชีวิต เรามักจะไปขอพรผู้ใหญ่ และกล่าวว่ากรรมใดที่ได้ล่วงเกิน ขอให้ท่านได้ยกโทษให้ คือให้สิ่งที่เป็นอโหสิกรรม ทำให้ใจเราว่างเพียงพอที่จะรองรับความดีที่กำลังจะเกิดขึ้นใหม่ เช่น พิธีบวช เป็นต้น
การแสดงอภัยทาน เป็นการชำระจิตใจ แม้จะดูพูดง่ายแต่ก็ทำได้ยาก หากไม่ฝึกทำจนเป็นปกติ เพื่อให้เข้าใจง่ายและอยากทำให้ได้ ขอให้เรามาพิจารณาเหตุผล ถึงความต่อเนื่องของผลกรรมที่มีผลข้ามภพข้ามชาติว่า ให้ผลเผ็ดร้อนเพียงใด และยังเป็นผลที่เราหนีไม่ได้อีกด้วย เราต้องถามตนเองก่อนว่า เราต้องการยุติผลของกรรมกับคนๆ นั้นในชาตินี้หรือต้องการจะพบเขาจะเจอเขาอีกต่อไป เราต้องยุติปัญหาเหล่านี้เพียงภพชาตินี้หรือต้องการลากยาวไปจนถึงภพชาติหน้า เรามีสิทธิเสรีในตัวเรา

บางคนรักมากหลงมากเพราะเขาดีมาก ก็ปรารถนาให้พบกันทุกภพทุกชาติ บางคนก็ขออธิฐานไม่ขอร่วมเดินทาง แต่ก็ไม่ยกโทษให้คือไม่ยอมให้อภัย ก็เหมือนกับการที่เราผูกสิ่งที่เราไม่ชอบเอาไว้กับเอวตลอดเวลา การอภัย จะทำให้เราสามารถยุติปัญหาต่างๆได้ เหมือนคนที่ล้างแก้วน้ำที่สะอาด ทำให้เหมาะที่จะรองรับน้ำบริสุทธิ์ที่เทลงไปใหม่ เหมือนกับการที่เราโยนสิ่งที่เราไม่ชอบทิ้งเสีย 

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

 

Blogger news

Blogroll

About